การดูเเลรถยนต์ที่ใช้แก๊ส
สมัยนี้คนมีจำเป็นต้องใช้รถมากๆ การใช้น้ำมันก็ไม่ใหวซะเเล้ว ดังนั้นเเก๊สจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนทำธุรกิจตอนนี้ก็ว่าได้ อย่างขนส่งนี้ใช้น้ำมันกับเเก๊สนี่คนละเรื่องเลยถ้าคู่เเข่งใช้เเก๊สเราใช้น้ำมันอีกหน่อยคงไม่มีคนใช้บริการบริษัทเรา เพราะราคามันถูกกว่าเห็นๆ
ข้อแนะนำและข้อควรระวังในการใช้แก๊ส 1. ตรวจเช็คเครื่องยนต์ให้สมบูรณืที่สุดก่อนติดตั้งชุดแก๊ส ถ้าเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์การใช้แก๊สจะยิ่งด้อยลงไปอีก 2. อย่าใช้แก๊สจนหมดถัง การใช้แก๊สจนหมดถังจะทำให้ความดันแก๊สลดลงและส่วนผสมบางซึ่งเป็นสาเหตหลักของการระเบิดกลับในท่อไอดี และจะทำให้ท่อไอดี ออกซิเจนเซ็นเซอร์และชุดกรองอากาศเสียหาย บางระบบอาจมีอุปกรณ์ป้องกันแต่ก็อาจไม่มั่นใจ จึงควรเปลี่ยนเป็นน้ำมันเมื่อเครื่องเดินไม่เรียบ
3. มิเตอร์วัดแก็สจะไม่มีความเที่ยงตรงเนื่องจากวัดด้วยความดันแก๊สซึ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แนะนำให้ตรวจวัดด้วยระยะทางวิ่งและเติมแก๊สก่อนหมดเพื่อป้องกันปัญหาตามข้อ 2 4. เมื่อเครื่องเย็นให้สตาร์ทด้วยน้ำมันทุกครั้งและรอจนเครื่องร้อนจึงเปลี่ยนเป็นแก็ส การใช้แก็สขณะเครื่องเย็นจะทำให้หม้อต้มเป็นน้ำแข็ง แก็สอุดตันและรั่วในที่สุด ถ้าเครื่องสะดุดหรือดับในขณะใช้แก็ส ให้ตรวจว่าหม้อต้มร้อนหรือเย็น ถ้าเย็นให้เปลี่ยนไปใช้น้ำมัน และตรวจสอบท่อน้ำร้อนภายหลัง
4.1. ในเครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์ การไม่ใช้น้ำมันนานๆ จะทำให้น้ำมันในคาร์บิวแห้งลูกยาง ปะเก็นจะแห้งตัวและรั่วภายหลัง จะเกิดคราบเหนียวที่ลูกลอย ทำให้น้ำมันท่วมเมื่อใช้น้ำมัน 4.2. ในเครื่องยนต์หัวฉีด การไม่ใช้น้ำมันนานๆ จะทำให้น้ำมันในหัวฉีดแห้ง คราบเหนียวจากน้ำมันจะทำให้หัวฉีดตัน การสตาร์ทด้วยน้ำมันจะเป็นการทำความสะอาดไปในตัว ยืดอายุงานของปะเก็นต่างๆ 4.3. ระยะเวลาการใช้น้ำมันช่วงสตาร์ทตอนเครื่องเย็นจะต่างกันในหน้าร้อนและหน้าหนาว รถที่มีฮีทเตอร์ตรวจสอบได้โดยการเปิดฮีทเตอร์แล้วมีลมร้อนออกมา แสดงว่าอุณหภูมิพร้อมสำหรับแก็ส 4.4. มิเตอร์ความร้อนของเครื่องจะไม่สามารถบอกได้ว่าอุณหภูมิถึงแล้วยัง ควรตรวจสอบจากฮีทเตอร์จะแน่นอนกว่า
5. ใช้อุปกรณ์ชุดจุดระเบิดของแท้เท่านั้น ของเทียมอาจทำให้การจุดระเบิดไม่เที่ยงตรง 6. เครื่องยนต์ที่ใช้แก็สควรเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันไร้สารตะกั่ว แก็สมีค่าออกเทนสูงกว่าน้ำมัน เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันไร้สารตะกั่วจะมีวาล์วและบ่าวาล์วที่แข็งกว่าแบบใช้สารตะกั่ว การใช้แก็สกับเครื่องยนต์แบบใช้สารตะกั่งจะทำให้วาล์วสึกเร็ว แต่สามารถแก้ไขโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นช่วย 7. ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ น้ำหล่อเย็นน้อยอาจทำให้หม้อต้มเป็นน้ำแข็ง การช้งานในหน้าหนาว แนะนำให้เติม anti-freezing ซึ่งจะช่วยไม่ให้หม้อต้มเป็นน้ำแข็ง ซึ่งจะทำให้เค่องเดินสะดุดหรือดับ และเป็นสาเหตุของแก็สรั่ว
8. มีเหตการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยมากนั่นคือหัวฉีดอุดตันหลังจากไม่ได้ใช้น้ำมันมานาน เนื่องจากมีตะกรันเกาะที่หัวฉีดตอนใช้น้ำมันและแข็งตัวขึ้นตอนใช้แก็ส มีข้อแนะนำให้เติมน้ำยาล้างหัวฉีดในถังน้ำมัน น้ำยาล้างหัวฉีดจะช่วยทำความสะอาดหัวฉีดทุกครั้งที่สตาร์ทด้วยน้ำมัน 9. ไม่ควรเติมแก็สจนเต็มและจอดรถทิ้งไว้กลางแดด การกระทำดังกล่าวอาจทำห้แก็สขยายตัวจนเซฟตี้วาล์วทำงานและปล่อยระบายแก็สออกมา เหตการณ์นี้จะไม่มีอันตรายใดๆนอกจากทำให้เสียแก็สออกไปบ้าง ป้องกันโดยไม่เติมแก็สจนเต็มแล้วจอดตากแดด ปิดคลุมถังแก็สไม่ให้ถูกแสงแดดโดยตรง ใช้วัสดุป้องกันความร้อน ที่สำคัญคือห้ามถอดฝาครอบเซฟตี้วาล์วออก เพราะจะได้ระบายแก็สออกไปนอกรถ 10. ช่วงที่เติมแก็สควรตรวจดูไม่ให้สายหักงอ เพราะจะทำให้สายดิ้นได้ 11. การเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก็สโดยไม่ผ่อนคันเร่งอาจทำให้เกิดการจุดระเบิดในท่อร่วมไอดี เนื่องจากแก็สยังมาไม่เต็มที่และส่วนผสมบาง ควรต้องรอให้อุณหภูมิเครื่องได้ที่และผ่อนคันเร่งลงสักครู่
12. บางระบบแนะนำให้ใช้น้ำมันก่อนดับเครื่องยนต์ซึ่งจะทำให้การสตาร์ทครั้งต่อไปง่ายขึ้น ถ้าดับเครื่องด้วยแก็สจะสตาร์ทยากเนื่องจากจะมีน้ำมันฉีดเข้ามาพร้อมแก็สที่ยังหลงเหลืออยู่ทำให้ส่วนผสมหนา 13. ต้องดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะระบบจุดระเบิดและไส้กรองอากาศ ถ้าไส้กรองอากาศตันจะทำให้ส่วนผสมหนาและมีปัญหาเดินเบา 14. อุปกรณ์วาล์วของถังบางรุ่นจะสั่นสะเทือนและมีเสียงดังเมื่อเติมแก็สเต็มถัง การสั่นสะเทือนเป็นสาเหตุให้แก็สรั่ว จึงขอแนะนำให้เติมแต่พอดี 15. ระยะเขี้ยวหัวเทียนของรถใช้แก็สจะแคบกว่าของน้ำมันเล็กน้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น