การติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์
ผมเองน่ะเล่นเครื่องเสียงรถยนต์แบบจริงๆจังๆมา5ปี ผมก็จะเริ่มจากของราคาถูกมาก่อน ถามว่าใช้ได้มั๊ยมันก็ใช้ได้นะครับ ถามว่าดีมั๊ยผมก็ว่ามันก็ดีนะ ได้ครบดีด้วยเพราะว่าตอนนั้นเอาทั้งฟร้อนท์ ซับ ทีวี ลำโพง พาวเวอร์ เอาไว้ทั้งดูหนังฟังเพลงครบครันดี ในราคาที่ไม่กี่บาทเอง ผมใช้มาได้ระยะนึงแล้วก็ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องเสียงรถมาเรื่อยๆพร้อมกับขอเข้าไปฟังรถของคนในชมรม นั่นเริ่มเป็นจุดเปลี่ยนของผม ทำให้ผมได้รู้ว่าเออ…
มันก็ต้องตามราคาของมันนะถ้าเราอยากได้ความคุ้มเราก็ต้องใช้อย่างนี้แหละคุ้มดี แต่ถ้าเราอยากเอาคุณภาพของเสียงจริงๆเราก็ต้องเปลี่ยนทั้งหมดเลยจากที่เรามี แล้วก็มีความรู้สึกว่ากลายเป็นเสียน้อยเสียยาก แล้วผมก็เริ่มเปลี่ยนมาเรื่อยๆเริ่มจากลำโพงก่อนเลย ผมซื้อลำโพงมา1คู่ในราคา15000บาท(กัดฟันซื้อ) โดยผมไปลองศึกษามาก่อน ว่าลำโพงมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง วัสดุที่ใช้ทำแต่ละอย่างทำให้มีแนวเสียงของมันเอง รวมถึงครอสโอเวอร์ที่มีความสำคัญมาก พี่ๆเชื่อมั๊ยครับว่าเล่นกันในระดับ ดินน้ำมันขนาดครึ่งซม.แปะที่ข้างทวิสเตอร์ทำให้เสียงต่างกัน
วัสดุที่หุ้มตู้ลำโพงทำให้เสียงต่างกัน ฟร้อนท์ที่ใช้รีโมทได้ โดยกดที่รีโมทกับกดที่ตัวฟร้อนเองเสียงไม่เหมือนกันนะครับ(ฟังมาแล้ว) ถ่านที่ใช้กับรีโมทยี่ห้ออะไรที่จะให้เสียงได้ใกล้เคียงกับการกดที่ตัวฟร้อนท์มากที่สุด แล้วก็ฟังแนวเสียงของลำโพงแต่ละยี่ห้อว่าให้เสียงต่างกันยังไงบ้าง รวมถึงสไตล์เสียงของฟร้อนท์ด้วยว่าเป็นยังไงและแก้ไขยังไงให้ตรงกับที่เราต้องการ อย่างเช่น การที่ฟร้อนท์ให้เสียงกลางที่อิ่มนุ่ม ลำโพงให้เสียงออกไปทางมิดเบสหนามาก เราก็อาจแก้ด้วยการใช้สายลำโพงที่มีเอกลักษณ์ให้เสียงที่สว่างและปลายเสียงจัด ซึ่งมันใช้เวลานานครับกว่าจะรู้ว่าจะใช้ยี่ห้อไหนดีรุ่นอะไรดี แล้วผมก็เปลี่ยนฟร้อนท์ตามมาในราคาหมื่นกว่าบาทแล้วก็ซื้อสายลำโพงกับสายไฟ
โดยเน้นที่สายลำโพงผมซื้อมา10เมตรในราคา2500 พาวเวอร์คลาสDเอาไว้ขับซับวอยซ์คู่ รายละเอียดมันมีเยอะมากๆครับจนขี้เกียจพิมพ์ อย่างพาวเวอร์กับซับ กว่าจะเลือกได้เราก็ต้องรู้ก่อนว่าเราชอบเนื้อเบสแบบไหน(ไม่ได้เกี่ยวกับความดัง) แล้วจะใช้พาวเวอร์อะไร ซับอะไรมันถึงจะเข้ากันในแบบที่เราต้องการ เพราะว่าพาวเวอร์ก็มีหลายแบบหลายคลาส ซับก็มีหลายแบบหลายชนิด รวมถึงตู้ว่าเราต้องการปริมาตรตู้ขนาดไหนและแบบไหน เพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์ของลำโพงซับตัวนั้นออกมาได้ถูกต้องที่สุด…….
มาถึงเรื่องของการเซ็ตเสียง และเวทีเสียง เป็นเรื่องที่ใหญ่มากต้องศึกษานานและต้องใช้ประสบการณ์เพื่อถ่ายทอดเสียงทั้งหมดออกมา อย่างเช่นการเซ็ตเสียงเมื่อทุกๆอย่างมารวมกันแล้วเราก็ต้องลองฟังว่ายังขาดอะไรอยู่บ้างโดยการฟังแบบFlat จากนั้นค่อยๆปรับแต่งเสียงที่เราต้องการ การออกมาของเสียงกลางและเสียงแหลม ทั้งซ้ายและขวาต้องมาตัดกันที่หัวเกียร์ของรถพอดีหรือให้ใกล้เคียงมากที่สุด อย่างฟร้อนท์ที่มีตัวหน่วงเวลา ก็คือการที่เรานั่งที่คนขับ เสียงที่มาถึงก่อนก็คือลำโพงหน้าขวามือ และมาช้าสุดที่ลำโพงหลังซ้ายมือ ตัวหน่วงเวลาจะหน่วงการทำงานของลำโพงที่ใกล้ที่สุดมาถึงช้าลงเพื่อให้เสียงของลำโพงที่อยู่ไกลมาถึงพร้อมๆกัน จึงทำให้เวทีเสียงเหมือนอยู่ตรงหน้าของเราเลยล่ะครับ…….
ทั้งหมดที่ทำมามันสะสมมาเรื่อยๆจนผมคิดว่ามั่นใจพอที่จะมาให้คำปรึกษาพี่ๆทุกๆท่าน เพราะว่ามันเริ่มมากจากอย่างถูกจนมาถึงอย่างแพง แล้วก็หากไม่ซีเรียสเรื่องเสียงนัก เราก็เล่นแบบราคาถูกหน่อยรับลองคุ้มแน่ๆครับได้ครบเลยครบครันดีด้วย ผมไม่ได้บอกว่าของราคาถูกนั้นมันไม่ดี หากแต่มันขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าต้องการอะไรมากกว่า แต่ถ้าอยากเอาคุณภาพจริงๆเราก็ต้องรู้จริงๆก่อนโดยอาจจะถามจากคนที่เคยเล่นมาก่อน ก็ขอให้ถามมาเถอะครับพี่ถ้าผมไม่รู้ผมก็จะบอกว่าไม่รู้ ถ้าผมรู้ผมก็จะบอกพี่ๆ…….
ปัจจุบันนี้เริ่มหันมาเล่นเครื่องเสียงบ้านแล้วล่ะครับ คำว่าเครื่องเสียงเหมือนกันแต่แท้จริงแล้วนั้นมันเป็นคนละศาสตร์กันเลยล่ะครับแต่ก็มีความคล้ายกันในเรื่องของความละเอียดอ่อน ต้องมาเริ่มศึกษากันใหม่เลยล่ะครับ เท่านี้ก่อนแล้วกันครับพี่ๆ
จาก เบียร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น